เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2557 ที่ผ่านมา ทาง LG ได้จัดงานแถลงข่าวเปิดตัวสมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นใหม่ล่าสุดกับ
LG G3 ซึ่งถือเป็นงานแถลงข่าวอย่างเป็นทางการในภูมิภาคเอเชีย ณ ArtScience Museum , Marina Bay sands ประเทศสิงคโปร์ ซึ่งทีมงาน
TechXcite ได้รับเกียรติให้เข้าร่วมงานดังกล่าวด้วย ซึ่งต้องขอขอบคุณทาง LG มา ณ ที่นี้ด้วย
กำหนดการเดินทางจากกรุงเทพสู่สิงคโปร์
ออกเดินทางกันตั้งแต่ช่วงเที่ยงของวันที่ 27 พฤษภาคม 2557
ซึ่งใช้เวลาเดินทางสู่โรงแรมที่พักประมาณสามชั่วโมง
ซึ่งการเดินทางก็ราบรื่นดีครับ ทาง LG
เตรียมรถบัสขนาดใหญ่มารับถึงสนามบินเลยทีเดียว
หลังจากที่เข้าที่พักแล้ว
ก็มีการพักเหนื่อยกันสักเล็กน้อย
ซึ่งพอถึงห้องปุ๊ปก็ต้องบอกว่าประทับใจกับวิวของโรงแรมที่สามารถมองเห็นไป
ถึง Marina Bay sands
ที่มีตึกใหญ่สามตึกพร้อมสิ่งก่อสร้างรูปเรือบนยอดตึกครับ อลังการมาก
ตกเย็นทาง LG นัดรับประทานอาหารเย็นกัน
ซึ่งรถราภายในเมืองสิงคโปร์ถือว่าไม่ติดหนักหนาสาหัสเหมือนกรุงเทพครับ
เดินทางกันแบบสบายๆ เป็นทริปที่ประทับใจมากทีเดียว
มาถึงร้านอาหารจีนที่ขึ้นชื่อเรื่องซีฟู้ด
พร้อมๆกับบรรดาสื่อมวลชนชาวไทยท่านอื่นๆที่เข้าร่วมงานแถลงข่าว LG G3
ในครั้งนี้ด้วย ทุกคนต่างตื่นเต้นกับการเปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นนี้มากครับ
เพราะช่วงคืนดังกล่าวกำลังจะมีงานแถลงข่าวจากทางฝั่งทางอเมริกาก่อน
แน่นอนว่าทีมงาน TechXcite ได้รายงานสดการเปิดตัวของ
LG G3
ไปก่อนหน้านี้เช่นกันครับ
อาหารมาพร้อมแล้ว ต้องขอขอบคุณ LG อีกครั้งกับอาหารมื้อดังกล่าวครับ
ก่อนกลับที่พัก
เพื่อเตรียมตัวสำหรับงานแถลงข่าว LG G3
ก็แวะถ่ายภาพสวยๆยามค่ำคืนของสิงคโปร์กันนิดหน่อย ทีมงาน TechXcite
ก็ต้องเตรียมตัวทำการบ้านเกี่ยวกับข้อมูลของ
LG G3 ครับ
ซึ่งแน่นอนว่ารายงานไปแล้วเรียบร้อยตั้งแต่เที่ยงคืนของวันที่ 28
พฤษภาคมที่ผ่านมา
เริ่มต้นเช้าวันที่ 28 พฤษภาคม 2557
อากาศแจ่มใส เตรียมตัวเดินทางสู่ ArtScience Museum , Marina Bay sands
ที่เห็นลิบๆในภาพนั่นแหละครับ จุดหมายปลายทางของเราในวันนี้ กับงานแถลงข่าว
LG G3
เดินทางโดยรถบัสพร้อมคณะสื่อมวลชนจากประเทศ
อื่นๆในเอเชีย เพื่อนบ้านเราก็เช่น อินโดนีเซีย กัมพูชา เป็นตัน
ถือเป็นงานใหญ่จริงๆครับ และนี่คือบริเวณ Marina Bay sands
เริ่มเดินเข้าสู่ ArtScience Museum
มีไดโนเสาร์มาต้อนรับด้วย โดยงานจะจัดขึ้นภายในห้องประชุมครับ
ตอนนี้อากาศเริ่มร้อนคล้ายๆเมืองไทยมาก แดดแรงสุดๆแม้จะเวลา 10.00 น.
มาถึงหน้าทางเข้างาน
แน่นอนว่ามีพริตตี้สาวมายืนต้อนรับคณะสื่อมวลชน
ก่อนที่จะเข้าสู่งานแถลงข่าวต่อไปก็ขอเก็บภาพมาฝากสักภาพก็แล้วกัน
เข้าสู่ตัวงานก็มีพื้นที่สำหรับสื่อมวลชนถ่าย
ภาพ และทดลองเล่นเครื่องจริงกัน ก็ถือว่า TechXcite
จะได้ลองจับลองเล่นกันในงานเลย
เดี๋ยวติดตามกันต่อครับว่าจะเป็นอย่างไรบ้างกับ LG G3
ภายในงานแถลงข่าวครับ
กับการเปิดตัวอย่างเป็นทางการกับ LG G3
ที่เน้นธีมของสมาร์ทโฟนตัวนี้ในเรื่อง Simple ตามสโลแกน Simple is the New
Smart
หลังจากจบการแถลงข่าวไปแล้ว
มาลองจับเครื่องจริงกันบ้าง แรกสัมผัสตัวเครื่องนั้น บอกได้เลยว่าสวยงามมาก
โดยเฉพาะยิ่งใส่เคสแบบปิดฝาพับที่มีวงกลมเว้นไว้แสดงผล
ตัวเครื่องก็ขนาดพอดีกับการจับถือ ไม่เล็กไม่ใหญ่เกินไปครับ
แม้ว่าหน้าจอจะมาในขนาด 5.5 นิ้วก็ตาม
ในวงกลมนี้เราสามารถแตะหน้าจอให้ทำงานได้
อย่างรวดเร็ว เช่น การใช้งานโทรศัพท์ หรือว่าจะเปิดเพลงฟัง เป็นต้น
โดยที่เราไม่ต้องเปิดฝาออกมา สะดวกในการใช้งานมาก
ลองโหมดถ่ายภาพจากในวงกมเล็กๆนี่
ก็อย่างที่เห็นในภาพครับ โชว์เป็นหน้าจอเล็กๆ ซึ่งระบบถ่ายภาพของ LG G3
นั้น จุดเด่นอยู่ที่ระบบโฟกัสที่รวดเร็วมากๆ โดย
LG G3 ใช้เทคโนโลยี Laser
ในการหาระยะวัตถุเพื่อคำนวณระยะโฟกัส ซึ่งรวดเร็วกว่าระบบโฟกัสแบบ Contrast
Detect อยู่มาก หรือถ้าเทียบกับ Phase Detection
ซึ่งเป็นระบบโฟกัสรุ่นใหม่ก็ยังเร็วกว่าพอสมควรครับ
จากการทดลองเล่นในงานแล้วบอกได้ว่าประทับใจมากกับจุดนี้
เรื่องของหน้าจอแสดงผล LG G3
มาพร้อมกับหน้าจอความละเอียด Quad-HD ซึ่งแน่นอนว่าคมชัดสวยงามมาก
แถมสีสันก็สดใสตามสไตล์ LG อยู่แล้ว ใครที่เน้นเอามาดูหนังหรือเล่นเกม
ต้องชอบครับ สีสันและความคมชัดอยู่ในขั้นยอดเยี่ยม
ระบบการทำงานต่างๆของ LG G3 นั้น
หลังจากลองเล่นสักพักพบว่าใช้งานได้ลื่นไหลดี หน้าตา UI นั้นคล้ายกับเล่น
Nexus อยู่ เพราะเรียบง่ายไม่หวือหวามาก
ซึ่งตรงจุดนี้น่าจะเป็นส่วนที่ทำให้เครื่องทำงานได้ลื่นไหล
ใครชอบแนวเรียบๆดูสบายตาน่าจะชอบ LG G3 ตัวนี้ครับ ส่วนระบบ Smart
Notice ที่ทาง LG โปรโมท ดูๆแล้วคิดว่ามีก็ดี ไม่มีก็ไม่เป็นไรครับ
บางอย่างเราทำเองก็ได้ อย่างเช่นระบบแจ้งเตือนให้บันทึกเบอร์ที่โทรบ่อย
หรือเตือนให้พกร่มด้วยเดี๋ยวฝนตกแทนที่จะบอกแค่อุณหภูมิสภาพอากาศแบบทั่วๆไป
ดีไซน์ฝาหลังสวยมากถึงมากที่สุด
แม้ว่าจะเป็นพลาสติกแต่ออกแบบให้มีลวดลายสวยงามเหมือนกับเป็นวัสดุโลหะ
ปุ่มควบคุมที่อยู่ด้านหลังก็ช่วยให้ควบคุมเครื่องได้ง่ายดี
ใช้นิ้วชี้กดได้เลย
แถมยังเป็นการออกแบบที่ลดพื้นที่โทรศัพท์ด้วยแทนที่จะเอาไปไว้ด้านหน้า
ส่วนกล้องหลังมาพร้อมแฟลช LED คู่ แถมมีเซ็นเซอร์ Laser
ที่มองดีๆจะเห็นแสงสีแดงของเลเซอร์ในการโฟกัส แถมใช้แอพฯอื่นก็ใช้งานเจ้า
Laser ที่ว่านี้ได้ตามปกติ
คุยเรื่องกล้องแล้วขอเล่านิดหน่อยว่า กล้อง
LG G3 นั้น นอกจากโฟกัสเร็วแล้วยังให้ภาพที่สวยงาม
จุดเด่นอีกอย่างคือกล้องหน้าที่ถ่าย Selfie ได้สวยงาม
มีโหมดหน้าเนียนที่ใช้งานง่าย แถมไม่จำเป็นต้องเอานิ้วแตะชัตเตอร์ที่หน้าจอ
แค่เราเอามือแบไว้สักครู่ให้กล้องจับการทำงานแล้วหุบมือ
กล้องก็จะทำการลั่นชัตเตอร์ภายใน 3 วินาทีครับ คนชอบถ่าย Selfie
ถูกใจมากๆแน่นอน
อีกจุดเด่นก็คือเรื่องของ Smart Keyboard
สำหรับแป้นพิมพ์ของ LG G3 นั้นมีระบบเดาคำศัพท์ที่เราใช้บ่อย
ไม่ใช่แบบมั่วๆ แถมเราสามารถเลือกคำที่เราต้องการได้เอง
ทั่สำคัญคือเวลาเราพิมพ์ไปข้อความก็จะโชว์เหนือแป้นพิมพ์ไม่ต้องเหลือกตา
ขึ้นลงตอนพิมพ์ ช่วยลดโอกาสในการพิมพ์ผิดด้วยครับ
และจากการลองใช้งานจริงๆก็พบว่าพิมพ์ศัพท์
พิมพ์ข้อความได้ง่ายและเร็วโดยไม่ค่อยผิดครับ
ส่วนอีกเรื่องที่ LG G3
ได้รับการโปรโมทก็คือเรื่องลำโพงที่ให้คุณภาพเสียงดีขึ้น ด้วยลำโพง 1
วัตต์แท้ๆ ซึ่งก็จะทำให้เราฟังเสียงเรียกเข้าได้เพราะมากขึ้น :P
สำหรับ LG G3 นั้นมาพร้อมกับฝาหลังแบบพิเศษที่สามารถชาร์จแบตเตอรี่ได้แบบไร้สาย ก็ถือว่าสะดวกในการชาร์จไฟดีครับ
แถมสุดท้ายฝาหลังที่ถอดออกได้
ก็ถือเป็นจุดเด่นที่สมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นอื่นๆทำไมได้
เพราะเราสามารถถอดเปลี่ยนแบตเตอรี่ได้
เรียกว่าถ้าเครื่องค้างคงไม่ต้องมานั่งปวดหัวรอแบตหมด
ดึงแบตเตอรี่ออกก็น่าจะง่ายดี แถมแบตเตอรี่ความจุก็มากถึง 3000mAh
สุดท้ายแล้วครับสำหรับการลองเล่น
LG G3
แบบตัวเป็นๆ ก็เรียกได้ว่า สุดยอดสมกับที่เป็นเรือธงของค่ายเลย
ไม่ว่าจะเรื่องกล้อง เรื่องระบบการทำงาน ลูกเล่นรวมไปถึงดีไซน์ อ้อ
ลืมไปอีกอย่างที่ชอบมากๆกับระบบ Knock On
ที่เราสามารถเคาะหน้าจอให้เครื่องทำงาน
โดยเราสามารถตั้งวิธีการเคาะเป็นรูปแบบที่เรารู้
เพื่อป้องกันผู้อื่นมาแอบใช้เครื่องด้วย
ตรงนี้ถือว่าเร็วกว่ามานั่งใส่รหัสหรือใช้ระบบ Pattern ครับ ลองมาแล้ว
สรุปคร่าวๆนะครับหลังจากที่ได้ลองเล่น LG G3 ของจริงในงานแถลงข่าว
- ดีไซน์สวยมาก สู้กับแบรนด์อื่นๆได้สบายๆ ตัวเครื่องไม่เล็กหรือใหญ่เกินไป
- หน้าจอสีสวยสด คมชัดสะใจ ใครชอบหน้าจอแจ่มๆต้องเลือกเลยครับ ไม่ผิดหวังจริงๆ
- ระบบ UI นั้นเรียบง่ายเหมือนกับใช้ Pure
Android ของพวก Nexus ใครชอบแบบลูกเล่นหวือหวาอาจจะไม่ถูกใจ
แต่ประเด็นคือเอามาลง UI เองก็ได้ แถม UI เรียบๆง่ายๆแบบนี้
ช่วยให้เครื่องทำงานได้รวดเร็วครับ
- กล้องแจ่มมากทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง
แถมระบบโฟกัสที่รวดเร็วดีมาก
ใครที่เบื่อเวลาถ่ายรูปที่แสงน้อยแล้วโฟกัสวืดวาด แนะนำเปลี่ยนมาใช้ตัวนี้
ชีวิตจะดีขึ้นมากครับ
- เคสแบบฝาพับมีจอกลมๆก็ใช้งานสะดวกดี แสดงผลโดยไม่ต้องเปิดฝาพับ เอาไว้ใช้งานแบบเร็วๆ
- แป้น
พิมพ์มีแสดงข้อความใกล้ๆ ไม่ต้องเหลือกตาขึ้นลงตอนพิมพ์
ก็พิมพ์ง่ายขึ้นหน่อยนึงครับ
แถมมีระบบคำศัพท์ที่ไม่พิมพ์คำอัตโนมติให้เรามั่วๆ
- แบตเตอรี่ถอดได้ อันนี้หลายคนน่าจะชอบมั้ง ประมาณว่าซื้อแบตเตอรี่อีกก้อนมันเลยเวลาใช้งานหนักๆ
- ระบบ Smart Notice เหมือนลูกเล่นขำๆ มีก็ดี ไม่มีเราก็ทำเองได้ เช่น เมมเบอร์ที่โทรบ่อย
- โดยรวมให้ 9/10 ครับ รอดูราคาขายกันอีกทีครับ คาดว่าน่าจะอยู่ที่ 20,000+ ตามคู่แข่ง ซึ่งก็ถือว่าเป็นตัวเลือกนึงที่น่าสนใจครับ