วันอังคารที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2557

Review: Samsung Galaxy Note Pro 12.2 แท็บเล็ตทำงานออฟฟิศเพื่อนักสร้างสรรค์!

:: Review: Samsung Galaxy Note Pro 12.2 แท็บเล็ตทำงานออฟฟิศเพื่อนักสร้างสรรค์! ::
สวัสดีครับชาว TechXcite ทุกท่านกลับมาพบกับ ป๋าเอก TechXcite กันอีกครั้งกับการ Review อุปกรณ์ ITและ Gadget ที่น่าสนใจกันอีกเช่นเคย โดยในครั้งนี้ขอพาทุกท่านมาดูของใหญ่กันบ้างดีกว่ากับ Samsung Galaxy Note Pro 12.2 อุปกรณ์ลูกผสมตามประสาค่าย Samsung ที่เคยนำสูตรมือถือ+แท็บเล็ตออกมาเป็นSamsung Galaxy Note รุ่นต่างๆที่ได้รับเสียงตอบรับจากแฟนคลับเป็นอย่างดี กลับมาคราวนี้พี่ Samsungเลยขอลองสูตรใหม่นำแท็บเล็ต+โน้ตบุ๊คกันดูบ้างสักตั้งจนผลลัพธ์ออกมาเป็นอุปกรณ์ไฮบริด “Samsung Galaxy Note Pro 12.2” ที่ทุกท่านเห็นกันอยู่ตรงนี้นั่นแล
ก็เอาเป็นว่าหลังจากที่ผมได้ Samsung Galaxy Note Pro 12.2 มาเล่นอยู่ประมาณสัปดาห์กว่าๆก็จะขอสรุปความรู้สึกส่วนตัวที่ได้จากการใช้งาน Samsung Galaxy Note Pro 12.2 มาให้ทุกท่านได้ติดตามรับชมประกอบการตัดสินใจซื้อก็แล้วกันครับว่า Samsung Galaxy Note Pro 12.2 จะตอบโจทย์คนที่อยากได้แท็บเล็ต, โน้ตบุ๊ค หรืออยากได้มันทั้งสองอย่างเลยหรือเปล่าครับ :)
Samsung Galaxy Note Pro 12.2 - Design 
- ถ้าพูดถึงองค์ประกอบดีไซน์โดยรวมของ Samsung Galaxy Note Pro 12.2 นั้นบอกได้เลยว่าแทบไม่มีอะไรที่แตกต่างจากรุ่น Note 10.1 2014 Edition เลยโดยเฉพาะอย่างยิ่งฝาหลังพลาสติกลงลายเหมือนหนังเทียมที่ทุกคนคุ้นเคยจาก Note 3 ก็มาโผล่ที่นี่ด้วยเช่นกัน แต่ส่วนตัวแล้วผมมองว่าวัสดุใกล้เคียงกันแต่ของทางSamsung Galaxy Note Pro 12.2 ดูเหมือนว่าจะมีความหรูหราเมื่อได้สัมผัสมากกว่าอยู่นิดๆครับ ยิ่งพอใส่ด็อคคู่กันขึ้นมาแล้วก็ทำให้ความรู้สึกเหมือนกำลังใช้งานอัลตร้าบุ๊คขนาดย่อมๆยังไงยังงั้นเลยแหละ
- แต่ที่สร้างความแตกต่างให้กับ Samsung Galaxy Note Pro 12.2 จากแท็บเล็ตรุ่นอื่นๆของ Samsung(และของยี่ห้ออื่น) ก็คือขนาดหน้าจอที่ใหญ่โตอลังการถึง 12.2 นิ้วพร้อมระดับความละเอียด 2560 x 1600 พิกเซลชนิดที่ว่าหลายคนชอบแซวกันว่าเหมือนเดินถือทีวีออกไปข้างนอก 555+ ซึ่งแม้ว่าเรื่องสีสันของหน้าจอ Super AMOLED Super Clear LCD จะยังเชื่อขนมกินได้ว่าจัดจ้านสดใสเหมือนเดิมเพียงแต่ด้วยความที่หน้าจอมีขนาดใหญ่กว่าปกติก็เลยทำให้ความคมชัดอาจจะน้อยลงไปเล็กน้อย (247 ppi) หากเทียบกับรุ่น 10 นิ้วแต่ก็ไม่ได้ถึงกับเลวร้ายอะไรมากมายนะฮะ
- อย่างไรก็ตามต้องยอมรับว่าด้วยขนาดหน้าจอที่ใหญ่ระดับโน้ตบุ๊คย่อมๆแบบนี้ก็ทำให้การใช้งานของ Samsung Galaxy Note Pro 12.2 นั้นหลักๆแล้วก็คือการใช้งานอยู่กับที่ (เช่นวางบนโต๊ะหรืออยู่บนด็อค) ซึ่งตัวเครื่องก็มีอยู่จุดหนึ่งที่ทำให้รู้ว่า Samsung ตั้งใจจะให้ผู้ใช้งานเครื่องในแนวนอน Landscape เป็นหลักก็คือการที่พอร์ต MicroUSB 2.0/3.0 ได้ถูกย้ายไปอยู่ทางด้านขวาของตัวเครื่องซึ่งเป็นตำแหน่งที่เหมาะกับการนำเมาส์หรือสายอุปกรณ์เสริมต่างๆไปเสียบใช้งานแบบเดียวกับโน้ตบุ๊คที่มีพอร์ตต่างๆอยู่ข้างเครื่องนั่นเอง เพราะฉะนั้นต้องยอมรับว่าSamsung Galaxy Note Pro 12.2 ไม่ได้รับการออกแบบให้ใช้งานในแนวตั้งบ่อยๆนะฮะ
- ส่วนเรื่องของการใช้งานด้วยการถือนั้นการันตีว่าส่วนใหญ่แล้วยังไงเสียก็ต้องถือ Samsung Galaxy Note Pro 12.2 สองมือครับเพราะตัวเครื่องใหญ่กว่าแท็บเล็ตปกติทั่วไป คืออันที่จริงแล้วคุณก็สามารถถือด้วยมือเดียวได้ครับเพียงแต่มันจะไม่ค่อยถนัดนักแถมสมดุลไม่ดีด้วยทำให้ต้องใช้อีกมือนึงในการช่วยประคอง เพราะฉะนั้นถ้าคุณอยากถือ Samsung Galaxy Note Pro 12.2 เดินเล่นไปมาแบบสายหน่อยก็คงต้องถือเครื่องในแนวตั้งที่เป็นอะไรที่ยาวพิลึกละครับ
- ที่แปลกตาไปเล็กน้อยอีกอย่างก็คือปุ่มควบคุมบริเวณใต้หน้าจอของ Samsung Galaxy Note Pro 12.2 ที่ปรับมาเป็นปุ่ม Recent ทางด้านซ้าย (จากสมัยก่อนเป็นปุ่ม Settings) และปุ่ม Back ทางด้านขวาแทน
Samsung Galaxy Note Pro 12.2 - Performance
- สำหรับสเปคคร่าวๆในส่วนของการประมวลผลใน Samsung Galaxy Note Pro 12.2 ก็คือชิปเซ็ต Samsung Exynos แบบ Octa Core CPU แปดคอร์ประมวลผลซึ่งแบ่งออกเป็น 4 คอร์ใหญ่สำหรับงานหนัก (Quad A15 1.9GHz) และ 4 คอร์เล็กสำหรับงานเบาและประหยัดพลังงาน (Quad A7 1.3GHz) เมื่อนำมาผนวกรวมกับ RAM อีก 3GB ก็ทำให้การใช้งานโดยรวมภายในเครื่องถือว่าลื่นไหลไม่มีปัญหาดีครับโดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนของ Multitasking นั้นถือว่าทำได้เยี่ยมยอดดีทีเดียวต่อให้เปิด 4 หน้าจอก็สามารถเปิดใช้งานพร้อมกันสลับการใช้งานได้แบบไม่มีปัญหากระตุกตลอดเวลาแต่อย่างใด ยิ่งเรื่องการเล่นเกมส์นี่บอกได้เลยว่าสะแด่วแห้วไปเลยเพราะผมลองเล่น Asphalt 8 กับ Modern Combat 4 มาก็ถือว่าลื่นดีครับบวกกับจอใหญ่เยี่ยงนี้อารมณ์เหมือนถือโน้ตบุ๊คเล่นเกมส์ยังไงเลยแฮะ (แต่ไม่แนะนำให้ถือนาน...เมื่อยครับ 555+)
- ความจุภายในเครื่องของ Samsung Galaxy Note Pro 12.2 ให้มาเต็มที่คือ 32GB ซึ่งคุณสามารถซื้อ MicroSD Card มาเติมได้อีกถ้าคิดว่ายังไม่พอครับเพราะคิดว่าหลายคนน่าจะพยายามยัดไฟล์หนัง High-Def จำนวนมากใส่เครื่องไปนั่งดูกันจนตาแฉะแน่ๆ อิอิอิ
- ที่ขอชมเลยก็คือกล้องหลังและกล้องหน้าของ Samsung Galaxy Note Pro 12.2 ที่จัดเต็มแบบสุดๆเพราะขนมาทั้งระดับความละเอียดที่มากกว่าและยังมีแฟลช LED อีกด้วยสำหรับการถ่ายภาพในเวลากลางคืน เท่านั้นยังไม่พอซอฟต์แวร์ในการถ่ายภาพของแท็บเล็ตตัวนี้ก็ไปดึงมาจาก Samsung Galaxy S4 ซึ่งจะมีโหมดถ่ายภาพมากมายหลายแบบกว่าไม่ว่าจะเป็น Panorama, Beauty Face, ฯลฯ เช่นเดียวกับฝั่งกล้องหน้า 2 ล้านพิกเซลซึ่งก็น่าจะเหมาะสมกว่ากับแท็บเล็ตที่ใช้งานในการประชุมแบบ e-meeting เห็นหน้าค่าตากันคงต้องขอความคมชัดนิดนึง ตรงนี้ต้องถือว่าดีกว่าคู่แข่งหลายๆเจ้าที่เป็นแท็บเล็ตแต่ไม่เน้นกล้องมากสักเท่าไหร่ครับ
- อีกอย่างที่น่าเสียดายมากก็คือ Samsung Galaxy Note Pro 12.2 แม้จะมีลำโพงคู่สองด้านแต่ผมว่าเสียงมันค่อนข้างเบาไปหน่อยะนะสำหรับแท็บเล็ตที่พยายามจะยกระดับตัวเองขึ้นไปเป็นคู่แข่งกับอัลตร้าบุ๊ค (ที่ถึงเปิดเสียงดังสุดแล้วแตกแต่อย่างน้อยเสียงก็ดังจริงๆ) เพราะฉะนั้นทางออกของผมคงจะอยู่ที่การใช้ลำโพงมาต่อหรือหูฟังไปเลยอะไรก็ว่ากันไป
- ข้อดีจาก Note 3 ที่ได้รับการนำมาใส่ใน Samsung Galaxy Note Pro 12.2 ก็คือพอร์ต MicroUSB 3.0 ที่ช่วยเพิ่มความเร็วในการโอนถ่ายไฟล์ให้เร็วขึ้นกว่าปกติ ซึ่งผมว่าคนที่ใช้แท็บเล็ตระดับนี้น่าจะมีการโอนไฟล์เข้า-ออกตลอดเวลาอยู่นะอย่างเช่นนักเขียนบล็อกที่ต้องอัพโหลดรูปต่อจากกล้อง DSLR อีกทอดหนึ่งก็สามารถใช้ประโยชน์จากความเร็วในจุดนี้ได้ครับ
- ที่ถือว่าทำได้ตามมาตรฐานก็คงเป็นในส่วนของแบตเตอรี่ใน Samsung Galaxy Note Pro 12.2 กับความจุ 9500 mAh ซึ่งมากกว่ารุ่น Note 10.1 อยู่พอสมควรและก็สามารถใช้งานได้แบบหนึ่งวันเต็มๆแบบสบายๆโดยไม่ต้องกังวลเรื่องการต้องมองหาที่เสียบชาร์จแบตเตอรี่สักเท่าไหร่ แต่ส่วนตัวแล้วยังไม่ค่อยรู้สึกถึงความแตกต่างจากรุ่น Note 10.1 สักเท่าไหร่เพราะแม้ว่าแบตเตอรี่จะมากขึ้นจริงแต่ก็ยังมีปริมาณการใช้พลังงานที่ใกล้เคียงรุ่นเดิมซึ่งส่วนหนึ่งก็เป็นผลมาจากการที่หน้าจอมีขนาดใหญ่ขึ้นของตัวเครื่องนั่นเอง
Samsung Galaxy Note Pro 12.2 - Special Features
- หนึ่งในฟีเจอร์ที่ผมว่าค่อนข้างจะได้ใช้จริงเลยก็คือระบบ Multi-Windows เปิดหลายๆหน้าจอพร้อมกันซึ่งในSamsung Galaxy Note Pro 12.2 สามารถเปิดได้พร้อมกันถึง 4 หน้าจอโดยที่แต่ละหน้าจอก็สามารถปรับขนาดได้ตามใจ แน่นอนว่าด้วยหน้าจอที่ใหญ่ผิดมนุษย์มนาแบบนี้ก็ทำให้การใช้งานในแต่ละหน้าจอมีพื้นที่พอสมควร (ถ้าแบ่งเท่าๆกันก็ได้ประมาณหน้าจอมือถือ 4 จอเลย) ซึ่งผมว่าโอเคนะกับการทำงานหลายๆอย่างพร้อมกันเช่นเปิดไฟล์เอกสาร+เปิดเว็บเบราเซอร์+เปิดเพลง+เปิดแกลเลอรี่ภาพซึ่งเป็นคอมโบที่ผมใช้อยู่ตลอดเวลาที่ได้เครื่องมานั่นละฮะ 555+
- อย่างไรก็ตามระบบ Multi-Windows นั้นต้องบอกว่าสามารถรองรับได้แค่บางแอปฯเท่านั้นซึ่งจะมีการอัพเดทเพิ่มรายชื่อกันเข้ามาในอนาคต (ส่วนหนึ่งขึ้นอยู่กับผู้พัฒนาแอปเองด้วย) แต่เท่าที่มีอยู่ผมก็ว่ารองรับการทำงานพื้นฐานได้ค่อนข้างครอบคลุมแล้วครับ (ต้องมีคนนึกอยากเล่นเกมส์เป็นจอเล็กๆ 4 จออยู่แน่ๆเลยถ้าให้เดา)
- อีกอย่างหนึ่งที่ผมเซอร์ไพรส์มากใน Samsung Galaxy Note Pro 12.2 ก็คือคีย์บอร์ดบนหน้าจอภายในเครื่องครับเพราะเป็นคีย์บอร์ดที่มีรูปแบบการใช้งานใกล้เคียงกับคีย์บอร์ดจริงๆเลยนั่นก็คือคุณสามารถกดคีย์ลัดสุดคลาสสิคทั้ง Ctrl+C, Ctrl+V, Ctrl +A เหล่านี้ได้เพราะผมว่าเป็นปุ่มที่คนพิมพ์งานบ่อยๆน่าจะได้ใช้งานจริงๆครับ ตรงนี้ต้องขอชมนิดนึงฮะ :D
- ส่วนเรื่องของปากกา S Pen ใน Samsung Galaxy Note Pro 12.2 นั้นต้องบอกว่าสามารถทำได้ตามมาตรฐานเดิมเท่ากับใน Note 3 ซึ่งก็ไม่น่าแปลกใจนักเพราะมันก็คือปากกาตัวเดียวกันนั่นแหละ (และก็ตัวเดียวกับ Note 10.1 ด้วย) ถ้าใครที่ใช้งานปากกาเหล่านี้มาแล้วก็คงจะพอเข้าใจว่าปากกา S Pen นั้นผมยกให้เป็นสไตลัสที่ดีระดับต้นๆของวงการเลยก็ว่าได้โดยเฉพาะกับเหล่านักสร้างสรรค์ผลงานศิลปะต่างๆที่ต้องการปากกาสไตลัสที่สามารถลงน้ำหนักในการวาดเขียนได้แบบไม่แตกต่างจาก Wacom เลยซึ่งผลิตภัณฑ์ตระกูล Note และ S Pen สามารถตอบโจทย์ดังกล่าวได้เป็นอย่างดีมาโดยตลอดครับ
- ทุกฟีเจอร์ Air Command ที่อยู่คู่กับปากกา S Pen กันมาตั้งแต่ Note 3 ไม่ว่าจะเป็น Action Memo, Scrapbook, S Finder,. Screenwrite หรือ Pen Window ต่างก็ได้รับการขนมาใส่ไว้ใน Samsung Galaxy Note Pro 12.2 ทั้งหมดฮะเรื่องนี้ไม่ต้องห่วง
Samsung Galaxy Note Pro 12.2 - OS & Software
- ในส่วนของซอฟต์แวร์ภายในเครื่อง Samsung Galaxy Note Pro 12.2 ได้รับการอัพเกรดไปใช้ Androidเวอร์ชั่นล่าสุดคือ Android 4.4 KitKat กันแล้วเพราะฉะนั้นอย่างน้อยๆเครื่องนี้ก็จะคงความใหม่อยู่ได้อีกพักใหญ่ๆแถมถ้าดูจากสเปคแล้วก็ไม่เคล้วว่าจะได้อัพเกรดเป็น Android เวอร์ชั่นต่อๆไปในอนาคตด้วยครับ
- นอกจากนี้ความเปลี่ยนแปลงหนึ่งที่น่าสนใจซึ่งเริ่มใช้งานเป็นรุ่นแรกใน Samsung Galaxy Note Pro 12.2ก็คืออินเตอร์เฟซแบบใหม่ Magazine UX ที่มีหลายคนค่อนขอดว่าเป็นเหมือนกับการผสมผสานกันระหว่าง Flipboard กับ Live Tiles ของฝั่ง Windows (และ Windows Phone) ซึ่งก็เป็นไปตามที่ว่ามานั่นแหละครับแต่ส่วนผมรู้สึกว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงจาก Samsung UX แบบเดิมๆที่หลายคนคุ้นตากันจนเริ่มเบื่อแล้วในทางที่ดีนะ เพราะรูปแบบการนำเสนอข่าวสารหรือข้อมูลที่น่าสนใจในรูปแบบกรอบต่างๆนั้น Samsung ได้เริ่มต้นมาตั้งแต่ตอน Note 3 แล้ว (My Magazine ที่ใกล้เคียงกับ BlinkFeed) ซึ่งตัวนั้นผมว่ายังไม่เวิร์คเท่าไหร่เวลาจะใช้งาน แต่ Magazine UX นั้นถือได้ว่า Samsung ปรับปรุงขึ้นมาได้ดีทีเดียว
- อย่างไรก็ตามเป็นที่น่าเสียดายว่าการปรับแต่งของ Magazine UX ในช่วงแรกนั้นยังทำได้อย่างจำกัดเพราะยังไม่มีแอปหรือคอนเทนต์มารองรับมากนักแต่ส่วนตัวผมค่อนข้างชอบเปิดอ่านหน้าเหล่านี้เป็นอย่างยิ่งเวลารับฟีดข่าวต่างๆจาก Flipboard เพราะผมว่ามันให้อารมณ์เหมือนกำลังอ่านนิตยสารจริงๆยังไงยังงั้น กระนั้นก็ดีสำหรับคนที่ไม่ชอบหน้าตาของ Magazine UX ใน Samsung Galaxy Note Pro 12.2 นั้นก็ต้องขอแสดงความเสียใจว่าคุณไม่สามารถปิดหน้าดังกล่าวได้นะครับเพราะ Samsung จะฝังหน้าจอหลักให้เป็น Magazine UX อย่างน้อย 1 หน้านะจ๊ะ :P
- และแน่นอนครับว่าตามประสา Samsung แล้วแบรนด์นี้ยังไงก็การันตีเรื่อง "ของแถมตรึม" มาตั้งแต่ไหนแต่ไร ซึ่งใน Samsung Galaxy Note Pro 12.2 ก็จะมาพร้อมกับ Content Gifts หลากหลายคอนเทนต์แอปฯบนAndroid ที่ Samsung สมัครสมาชิกหรือให้คุณติดตั้งได้ฟรีไม่ว่าจะเป็นพจนานุกรม Oxford ฟรี, สมัครสมาชิก LinkedIn ฟรี 3 เดือน, ใช้งานโปรแกรมประชุมออนไลน์ Cisco WebEx Meetings ฟรี 6 เดือน, เป็นสมาชิก Evernote สำหรับจดโน้ตหรือบันทึกนาน 12 เดือน, ใช้งาน Dropbox ขนาด 50GB ฟรีนาน 2 ปีหรือจะเป็นแอป Sketchbook for Galaxy ชุดใหญ่สำหรับนักวาดภาพสเกตช์ภาพทั้งหลายก็มีให้ใช้งานกันได้ฟรีๆครับ...นี่ยังไม่นับรวม Samsung Galaxy Gift และสิทธิอีกมากมายที่ทุกท่านจะได้รับจากการใช้งานอุปกรณ์ของ Samsung อีกนะฮะ
- จริงๆแล้วมีฟีเจอร์ที่ Samsung พยายามใส่มาให้กับเหล่านักธุรกิจทั้งหลายได้ใช้งานกันด้วยนั่นก็คือ e-meeting หรือการแบ่งปันข้อมูลต่างๆบนหน้าจอร่วมกันไม่ว่าจะเป็นไฟล์เอกสารหรือภาพต่างๆและสามารถขีดเขียนและแชร์ร่วมกันได้ในกลุ่มผู้ที่ร่วมประชุมผ่านทาง Mobile AP หรือ WiFi และอีกหนึ่งระบบก็คือ Remote PC สำหรับโอนหน้าจอคอมพิวเตอร์ของคุณขึ้นมาบน Samsung Galaxy Note Pro 12.2 แล้วทำงานกันบนแท็บเล็ตได้เลย น่าเสียดายว่าสองอย่างนี้ผมยังไม่ได้ลองมาครับเพราะมีเวลาค่อนข้างจำกัด :)
- แต่หนึ่งในนั้นที่เป็นโปรแกรมเด็ดสุดๆบน Samsung Galaxy Note Pro 12.2 ที่ Samsung แถมมาให้ด้วยและชาวไทยทั้งหลายน่าจะได้ใช้งานกันก็คือโปรแกรมที่มีชื่อว่า Hancom Office ซึ่งเป็นเสมือนกับชุดโปรแกรมออฟฟิศที่คุณสามารถจัดการสร้างหรือแก้ไขงานเอกสารทั้ง Word, Excel และ Powerpoint ด้วยหน้าตาอินเตอร์เฟซที่ผมขอเรียกว่าแทบจะถอดแบบมาจาก Microsoft Office จริงๆเลยดีกว่า (คนทำแอปนี้ก็ถือว่าใจกล้ามากๆ) เอาเป็นว่าถ้าคุณเคยใช้งานออฟฟิศมาก่อนการใช้งานโปรแกรม Hancom Office ก็จะไม่เป็นปัญหากับคุณแน่นอนครับ ซึ่งจากที่ผมทดลองมาเอกสารที่บันทึกมาเป็นไฟล์ของ Microsoft Office นำมาเปิดกับโปรแกรม Hancom Office หรือในทางกลับกันแล้วพบว่าประมาณ 80% ไม่มีปัญหาแต่อย่างใดนะครับ (ที่เหลือคือเรื่องฟอนต์หรือการแสดงผลพิเศษที่ต่างกัน) อีกอย่างหนึ่งที่น่าสนใจก็คือ Hancom Office รองรับการป้อนข้อความด้วยการใช้ปากกา S Pen ด้วยนะเอ้อ!
Samsung Galaxy Note Pro 12.2 - Value
- ในส่วนของราคานั้นผมขอตำหนิ Samsung หน่อยละกันครับว่าราคาวางจำหน่ายของ Samsung Galaxy Note Pro 12.2 ในประเทศไทยนั้นผมถือว่าสูงมาก (สูงเกินไปเลยแหละ) กับระดับราคา 29900 บาทที่ผมมองว่าจะเป็นจุดตายที่ทำให้ Samsung Galaxy Note Pro 12.2 ทำยอดขายในบ้านเราได้ไม่สวยสักเท่าไหร่นี่แหละ เพราะจะว่าไปแล้วระดับราคานี้คุณสามารถซื้ออัลตร้าบุ๊คหรือโน้ตบุ๊คระดับกลางๆได้เลยซึ่งผมว่าด้วยประสิทธิภาพของ Windows ยังไงเสียการทำงานมันก็ให้ความรู้สึกที่ "เต็ม" มากกว่าบน Android แน่นอน 
- อย่างไรก็ดีก็ยังมีความพยายามที่ดีของตัวแทนจำหน่ายหลายๆแห่งที่พยายามเรียกลูกค้าให้หันมาใช้งาน Samsung Galaxy Note Pro 12.2 ด้วยการแถมด็อคคีย์บอร์ดไปเลยเมื่อซื้อเครื่อง (จากปกติต้องเสียเงินซื้อเพิ่มอีก) เพราะผมว่าคนที่อยากได้แท็บเล็ตรุ่นนี้ไปใช้งานออฟฟิศเต็มรูปแบบแล้วเรื่องของคีย์บอร์ดนี่ยังไงเสียก็ขาดไม่ได้จริงๆเพราะอารมณ์การพิมพ์ด้วยแป้นมันก็ยังให้ความรู้สึกที่ดีกว่าการพิมพ์บนหน้าจออยู่ดี เพราะถ้าจะให้ลูกค้าของ Samsung ไปซื้อด็อคคีย์บอร์ดเพิ่มอีกสัก 2000 บาทก็จะทำให้ราคาตัวเครื่องโดยรวมทะลุขึ้นไปถึง 30000 ต้นๆซึ่งถ้าเป็นราคาระดับนั้นผมว่าหลายคนอาจจะเริ่มสนใจ MacBook มากกว่านะ 555+
- อีกใจหนึ่งผมก็ยอมรับตรงๆว่าด้วยราคาที่ค่อนข้างสูงมากของ Samsung Galaxy Note Pro 12.2 อาจจะทำให้พวกเขาหันไปเจาะกลุ่มลูกค้าแบบ niche เป็นหลักแทน ซึ่งหากตรงนั้นยังได้ปริมาณลูกค้าไม่ตรงตามที่ต้องการก็อาจมีกระบวนการ "ปรับราคา" เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วเกินคาดซึ่งชวนหวาดเสียวแทนคนที่กำลังจะซื้อในช่วงเวลานี้จริงๆครับ
- และสำหรับราคานี้คุณยังได้แค่ Samsung Galaxy Note Pro 12.2 รุ่น 3G เท่านั้น ก็ไม่อยาจะิดเหมือนกันว่าถ้าเป็นรุ่น 4G LTE เข้ามาขายในบ้านเรานี่ราคาสงสัยจะใกล้เคียงกับโน้ตบุ็คตัวท็อปสัก 3xxxx บาทเลยละมั้งนั่น XD
Samsung Galaxy Note Pro 12.2 - Conclusion 
สำหรับส่วนตัวของผมแล้วคิดว่า Samsung Galaxy Note Pro 12.2 นั้นถือเป็นความพยายามครั้งใหญ่ของ Samsung ในการที่จะพยายามทำให้ผู้ใช้งานทั่วไปรู้สึกว่าแท็บเล็ต Android สามารถทำงานได้ในระดับใกล้เคียงกับโน้ตบุ๊ค (หรือ MacBook สักเครื่องหนึ่ง) ซึ่งต้องบอกว่าครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกยังเป็นเพียงแค่การลองผิดลองถูกเท่านั้นทำให้ Samsung Galaxy Note Pro 12.2 ออกจะลักลั่นในการใช้งานอย่างไรชอบกล (ใหญ่เกินไปจนใช้งานลำบากสำหรับคนที่คิดว่ามันคือแท็บเล็ตและศักยภาพยังไม่เพียงพอต่อการทำงานใหญ่ๆสำหรับคนที่คิดว่ามันคืออัลตร้าบุ๊ค)
อย่างไรก็ตาม Samsung Galaxy Note Pro 12.2 เองก็มีความโดดเด่นที่น่าจะถูกตาต้องใจหลายๆคนไม่ว่าจะเป็นความสะดวกในการพกพาหากเทียบกับโน้ตบุ๊คจริงๆที่มีเครื่องเคราเสริมเพียบเวลาต้องหยิบยกไปใช้งานข้างนอก, อายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่ยาวนานสมกับความเป็นแท็บเล็ตจริงๆ หรือจะเป็นระบบปฏิบัติการ Android อีนเป็นระบบอันแสนจะเปิดกว้างและสามารถดัดแปลงได้อย่างอิสระจนน่าจะถูกรสกับบุคคลหรือหน่วยงานที่ต้องทำงานแบบเปลี่ยนจุดตลอดเวลา (Mobile Worker) ทั้งหลายถ้าได้ลองมาสัมผัสแล้วอาจจะถูกใจกันก็ได้ (จริงๆผมว่าสายบล็อกเกอร์ไอทีเองก็เป็นหนึ่งในคนจำพวกนี้นะ :P)
ขอพูดตรงนี้ส่งท้ายแล้วกันฮะว่า Samsung Galaxy Note Pro 12.2 ยังไม่สามารถทดแทนการทำงานด้วยโน้ตบุ๊คได้อย่างเต็ม 100% แน่นอน...แต่ก็เป็นการเริ่มต้นที่น่าสนใจว่าในอนาคตดูท่าว่าเส้นแบ่งระหว่าง 2 ผลิตภัณฑ์นี้ทั้งแท็บเล็ตและโน้ตบุ๊คจะยิ่งบางลงไปเรื่อยๆแล้วละครับ :)
ส่วนคราวหน้า ป๋าเอก TechXcite จะไปสรรหาอุปกรณ์ IT หรือ Gadget ที่น่าสนใจตัวไหนมา Review กันอีกก็รอติดตามกันได้ที่เว็บ TechXcite เหมือนเดิมนะจ๊ะ แต่วันนี้คงต้องขอตัวลาไปก่อน แล้วพบกันใหม่...สวัสดีครับ :)
Samsung Galaxy Note Pro 12.2 วางจำหน่ายแล้วในประเทศไทยเฉพาะรุ่น 3G ด้วยราคา 29900 บาท
บทความโดย: ป๋าเอก TechXcite
ภาพโดย: น้องแป้ง TechXcite

วันพฤหัสบดีที่ 20 มีนาคม พ.ศ. 2557

Commart : รวมโปรโมชั่นคอมมาร์ตไทยแลนด์ 2014 อัพเดทเรื่อยๆ จนจบงาน

Commart : คอมมาร์ต ไทยแลนด์ 2014 (Commart Thailand 2014)
พร้อมโชว์ 14 เทคโนโลยียุคใหม่ที่ต้องมีในปี 2014 
งาน คอมมาร์ต ไทยแลนด์ 2014 จัดขึ้นภายใต้แนวคิด“Love IT Fever : ไอทีมหานิยม ไอที ทันสมัย นิยมสุดใจ เก๋าโจ๋ โก๋เกรียน”  โชว์ 14 เทคโนโลยียุคใหม่ที่ต้องมีในปี 2014 ทั้ง Tablet, Smart Phone,Notebook, กล้อง, Wearable Device เช่น Surface2, Nokia X เป็นต้น

และครบรอบ 14 ปี ของงาน “คอมมาร์ต ไทยแลนด์ 2014 จึงมีการจัดโปรโมชันสุดพิเศษ และการกิจกรรมFree Workshop เพื่อเป็นการขอบคุณลูกค้าที่ได้ให้การสนับสนุนด้วยดีมาตลอด
งานคอมมาร์ต ไทยแลนด์ 2014
จัดขึ้นระหว่างวันที่ 20-23 มีนาคม 2557 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์
ฉลอง 14 ปี “คอมมาร์ต” เออาร์ไอพีจับมือพันธมิตรขนทัพสินค้าไอทีลดกระหน่ำซัมเมอร์เซลล์
บริษัท เออาร์ไอพี จำกัด (มหาชน) ร่วมกับพันธมิตรบริษัทไอทีชั้นนำ ปลุกตลาดไอทีไทย ประกาศจัดงาน คอมมาร์ต ไทยแลนด์ 2014” ยิ่งใหญ่ ไม่หวั่นทุกสถานการณ์ ระหว่างวันที่ 20-23 มีนาคม 2557 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ฉลองครบรอบ 14  ปี  ของการจัดงาน พบนิทรรศการ 14 นวัตกรรมไอทีพลิกโลกที่เป็นแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์เทคโนโลยีของโลก โชว์สุดยอดเทคโนโลยียุคใหม่ที่ต้องมีในปีนี้และ ช้อปจุใจกับทัพสินค้าไอทีที่มาพร้อมโปรฯ ลด แลก แจก แถม มากมาย
โรงแรมดิเอมเมอรัลด์ รัชดา – 5 มีนาคม 2557 – นายพรชัย จันทรศุภแสง ผู้อำนวยการธุรกิจสื่อไอที บริษัท เออาร์ไอพี จำกัด (มหาชน) ผู้จัดงานแสดงและจำหน่ายสินค้าไอทีที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ภายใต้ชื่อ “คอมมาร์ตกล่าวว่า เออาร์ไอพี ร่วมกับบริษัทคู่ค้าไอทีชั้นนำทั้งในและต่างประเทศ เตรียมจัดงานแสดงและจำหน่ายสินค้าไอทีครั้งยิ่งใหญ่ คอมมาร์ต ไทยแลนด์ 2014”

ภายใต้คอนเซ็ป“Love IT Fever: ไอที มหานิยม โดยนำสินค้าไอทีล้ำสมัยที่สามารถตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ คุณภาพเยี่ยม มาให้เลือกช้อปกันอย่างจุใจ  นอกจากนี้ ภายในงานมีการจัดนิทรรศการ 14 นวัตกรรมไอทีพลิกโลก การจัดแสดงโชว์ Life Style Product & Gadget IT และนำเทคโนโลยียุคใหม่ที่ต้องมีในปี  2014  มาแสดงให้ผู้เข้าชมงาน

อาทิ Tablet, Smart Phone, Notebook, กล้อง, Wearable Device เช่น Surface2, Nokia Xมือถือแอนดรอยด์รุ่นแรกของ Nokia, Lenovo Yoga 2 Pro  ได้เลือกชมและเลือกซื้อกันอย่างจุใจเพื่อสร้างกระแสตลาดไอทีและสร้างความเชื่อมั่นในการผลักดันให้ไทยได้ก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางตลาดไอทีของอาเซียน
“งานคอมมาร์ต ถูกจัดให้เป็นงานแสดงและจำหน่ายสินค้าไอทีที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของภูมิภาคอาเซียนรองจากงานคอมมิวนิค เอเซีย ที่ประเทศสิงคโปร์ ทำให้พันธมิตรของเรามองเห็นโอกาสการเติบโตทางธุรกิจที่จะเพิ่มขึ้นอีกมาก เพื่อสอดคล้องกับการขยายธุรกิจออกไปสู่ภูมิภาค และรองรับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ปี 2558 
ดังนั้น งานคอมมาร์ต  ไทยแลนด์ 2014  จึงเป็นเสมือนเครื่องชี้วัดตลาดไอทีของไทย ซึ่งจะคลอบคลุมตลาดไอทีของ AEC ทั้งหมด งานนี้จะได้เห็นการแสดงศักยภาพของบริษัทคู่ค้าและตัวแทนจำหน่ายสินค้าไอทีชั้นนำต่างๆ ในประเทศไทย นำสินค้าและนวัตกรรมใหม่ๆ มานำเสนอแก่ผู้เข้าชมงาน รวมถึงรูปแบบการขยายพื้นที่เพื่อหวังเพิ่มยอดขายภายในงาน นั่นก็หมายถึงการแข่งขันกันในเรื่องการทำโปรโมชัน ลด แลก แจก แถม แบบไม่ยั้งของแต่ละบูธ เพื่อดึงดูดและกระตุ้นให้มีการจับจ่ายซื้อสิ้นค้าในงานให้มากขึ้นนั่นเอง” นายพรชัย กล่าว
นอกจากนี้ ยังมี กิจกรรม Free Workshop ที่น่าสนใจ อาทิ การอบรมสัมมนา เรียนรู้ทีวีดิจิตอล, ถ่ายได้.....ขายดี : สอนวิธีการถ่ายภาพเพื่อลงขายสินค้าออนไลน์ให้ได้ผล และยังมีกูรูให้คำปรึกษาวิธีการเลือกซื้อสินค้าไอที โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายที่  Buyer’s Guide Corner  พร้อมจัดเต็มสำหรับผู้ชื่นชอบสินค้าราคาเบา ๆ กับการประมูลสินค้าไอทีในราคาเริ่มต้นที่ 1 บาท กับ
Commart Auction ในวันอาทิตย์ที่ 23 มีนาคม 2557 เวลา 18.00 น. ณ เวทีกลาง
และสำหรับผู้ที่ซื้อสินค้าไอทีครบทุก 3,000 บาท รับคูปองชิงโชคลุ้นรถยนต์นิสสันมาร์ช มูลค่ากว่า 4 แสนบาท และรางวัลอื่นๆ อีกมากมาย ดูรายละเอียดได้ที่  www.commartthailand.com
สำหรับบริษัทไอทีชั้นนำที่เข้าร่วมเป็นผู้สนับสนุนหลักอย่างเป็นทางการ ได้แก่ บริษัท โตชิบา ไทยแลนด์ จำกัด, บริษัท เอซุสเทค คอมพิวเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด, บริษัท เดลล์ คอร์ปอเรชั่น (ประเทศไทย) จำกัด, บริษัท ไอที ซิตี้ จำกัด (มหาชน),  บานาน่าไอที (บริษัท คอมเซเว่น อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด) และมหาวิทยาลัยศรีปทุม

Commart : โปรโมชั่น Acer ในงาน Commart Thailand 2014 Commart : โปรโมชั่น PLEXTOR และ MSI ในงานคอมมาร์ตไทยแลนด์ Commart : โปรโมชั่น Lenovo ในงานคอมมาร์ตไทยแลนด์ 2014 Commart : เอซุส ยกทัพโน้ตบุ๊คและแท็บเล็ต กับโปรโมชั่นท้าลมร้อนในงานคอมมาร์ต Commert : HP Slate6 VoiceTab มือถือจอ 6 นิ้วเปิดราคา 9900 บาท Commart : ไอที ซิตี้ รุกงานคอมมาร์ต ไทยแลนด์ 2014 เปิดจำหน่าย Surface 2 Commert : เอปสัน ลดกระหน่ำคุ้มยิ่งกว่าคุ้มในงานคอมมาร์ต ไทยแลนด์ 2014 Commart : โปรโมชั่น Alcatel Onetouch ในงานคอมมาร์ตไทยแลนด์ 2014 Commart : แอดไวซ์ ขนทัพสินค้าลดกระหน่ำจุใจ ในงาน Commart Thailand 2014 Commart : โปรโมชั่นคิงส์ตันในงาน คอมมาร์ต ไทยแลนด์ 2014
ซื้อสินค้าภายในงาน Commart Thailand 2014 ครบ 3,000 บาท นำใบเสร็จมาแลกรับคูปองชิงโชค 1 ใบ ที่จุดแลกคูปอง (Commart Big Bonus)

เงื่อนไขกติกาการชิงรางวัล
1.ซื้อสินค้าภายในงาน Commart Thailand 2014  ครบ 3,000 บาท นำใบเสร็จที่มีตราประทับ CommartThailand 2014 (สามารถรวมใบเสร็จได้ตลอดทั้งงาน) มาแลกรับคูปองชิงโชค 1 ใบ ที่จุดแลกคูปอง (Commart Big Bonus)
2.เขียนชื่อ หรือลายเซ็นลงในคูปองให้ครบถ้วน มิฉะนั้นจะถือว่าเป็นโมฆะ
3.ส่งคูปองได้ที่กล่องรับชิ้นส่วนในงาน Commart Thailand 2014 ระหว่างวันที่  20 – 23  มีนาคม 2557 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์
4.หมดเขตการรับคูปองวันที่ 23 มีนาคม 2557 เวลา 20.00 น.
5.จับรางวัลวันที่ 24  มีนาคม 2557 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์
6.ประกาศรายชื่อผู้โชคดีทาง www.commartthailand.com วันที่ 25  มีนาคม 2557
7.ผู้ได้รับรางวัลจะได้รับการแจ้งจากบริษัท เออาร์ไอพี จำกัด (มหาชน) และต้องติดต่อรับรางวัลภายในระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด มิฉะนั้นจะถือว่าท่านสละสิทธิ์ในการรับรางวัล
8.ผู้ได้รับรางวัลมูลค่าเกิน 1,000 บาท ต้องชำระภาษี ณ ที่จ่าย 5%
9.พนักงาน และครอบครัวของบริษัท เออาร์ไอพี จำกัด (มหาชน) และบริษัทในเครือ AR Group ไม่มีสิทธิ์ร่วมรายการ
10.รายละเอียดของรางวัลได้แก่
รางวัลที่ 1 รถยนต์ NISSAN MARCH 1.2 S MT จำนวน 1 รางวัล มูลค่า 378,000 บาท โดยไม่รวมค่าอุปกรณ์ตกแต่ง ค่าจดทะเบียน ค่าขนส่ง ค่าโอน ค่า พรบ. และค่าประกันภัย 
รางวัลที่ 2 กล้อง Olympus E-P5-14-42-2R –VF-4K จำนวน 1 รางวัล มูลค่า 44,990 บาท
รางวัลที่ 3 กล้อง Canon EOS 700D จำนวน 1 รางวัล มูลค่า 26,900 บาท 
รางวัลที่ 4 Notebook Dell Vastro 5460 จำนวน 1 รางวัล มูลค่า 15,990 บาท และ NotebookLenovo G480  จำนวน 1 รางวัล มูลค่า 15,990 บาท
รางวัลที่ 5 สมาชิกนิตยสาร Computer.Today 1 ปี (24 ฉบับ) จำนวน 5 รางวัล มูลค่ารางวัลละ 1,320 บาท
รางวัลที่ 6 สมาชิกนิตยสาร Business Plus 1 ปี (12 ฉบับ) จำนวน 5 รางวัล มูลค่ารางวัลละ 1,020 บาท
11.ผู้โชคดีที่ได้รับรางวัลรถยนต์ห้ามเปลี่ยนแปลงแก้ไขอุปกรณ์ และสีของตัวถังเป็นระยะเวลา 1 ปี
12.ผู้ได้รับรางวัลไม่สามารถโอนสิทธิ์ แลกเปลี่ยน หรือทอนของรางวัลเป็นเงินสดได้
13.ขอสงวนสิทธิ์สำหรับผู้โชคดีที่ได้รับรางวัล จะได้รับรางวัลสูงสุดเพียงรางวัลเดียว และแจกรางวัลเฉพาะผู้ที่มีที่อยู่ในประเทศไทยเท่านั้น
14.ผู้ได้รับรางวัลจะต้องมีชื่อตามบัตรประชาชนตรงกับในคูปอง และจะต้องแสดงพร้อมกับใบเสร็จรับเงินที่ประทับตราCommart Thailand 2014 เพื่อเป็นหลักฐานในการรับรางวัล
15.คำตัดสินของคณะกรรมการถือเป็นที่สุด
แผนที่บูธ ในงานคอมมาร์ตไทยแลนด์ 2014
บรรยากาศและรายละเอียดงาน Commant Thailand ที่ผ่านมา